นางสาวจินตนา อินดา
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้ แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา นางสาวจินตนา อินดา
ที่ทำงาน โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39
ปีที่ศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ / เท่ากับ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษา ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 4 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 22 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนเรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
สรุปผลการศึกษา
1. ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.78/86.28 และค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.67 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน พบว่า
มีค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 15.46 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนน
เท่ากับ 25.23 และผลการเปรียบเทียบความแตกต่างกันระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการทดสอบค่าที (t-test) เท่ากับ 22.77 แสดงว่าคะแนนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้
ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.66 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.51
|
แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา นางสาวจินตนา อินดา
ที่ทำงาน โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39
ปีที่ศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ /
เท่ากับ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษา ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 4 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 22 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนเรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
สรุปผลการศึกษา
1. ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.78/86.28 และค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.67 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน พบว่า
มีค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 15.46 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนน
เท่ากับ 25.23 และผลการเปรียบเทียบความแตกต่างกันระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการทดสอบค่าที (t-test) เท่ากับ 22.77 แสดงว่าคะแนนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้
ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง English Use for Daily Life ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.66 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.51